ตอบ ไม่ต้อง เว้นแต่บริษัท ร้านขายยา ห้าง หรือร้านค้าอื่น ๆ นั้น เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตขาย (เครื่องมือแพทย์ที่ต้องมีใบอนุญาตขาย ได้แก่
เครื่องมือแพทย์ที่ต้องขอใบอนุญาตขาย มี 19 รายการ ดังนี้
1. ชุดตรวจที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเอชไอวี ประเภทเพื่อการวินิจฉัยภายนอกร่างกาย
ยกเว้นชุดตรวจที่เกี่ยวข้องกับการตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง (HIV self-testing)
2. ถุงบรรจุโลหิตมนุษย์
3. ผลิตภัณฑ์ที่มีสมบัติหนืดสําหรับใช้ในกระบวนการผ่าตัดตา
4. ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน
5. เต้านมเทียมซิลิโคนใช้ฝังในร่างกาย
6. กรดไฮยาลูโรนิกชนิดฉีดเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของผิวหนัง
7. เครื่องมือแพทย์ทางทันตกรรม จำนวน 12 รายการ มีผลบังคับใช้ (เริ่มยื่นคำขอ) 27 มิถุนายน 2567
- รากฟันเทียม (Dental implant)
- แบรคเก็ตจัดฟัน (Orthodontic brackets or braces)
- ยางจัดฟัน (Orthodontic elastic)
- ลวดจัดฟัน (Orthodontic wire)
- วงแหวนครอบฟัน (Orthodontic Bands)
- เครื่องมือจัดฟันชนิดใส (Clear Dental Aligner)
- กรดกัดฟัน (Etching)
-วัสดุอุดฟัน (Dental filling material)
- สารยึดติดฟัน (Deดntal bonding agent or Cementing agent) ยกเว้นกาวติดฟันปลอม
- วัสดุพิมพ์ฟันทางทันตกรรม (Impression material for dental)
- แผงฟันเทียม (Artificial teeth)
- ฟลูออไรด์วานิช (Fluoride Varnish)
8. เครื่องมือแพทย์ที่ผู้ขายต้องได้รับอนุญาตและต้องขายเฉพาะแก่ผู้บริโภคซึ่งมีใบสั่งของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
จำนวน 1 รายการ มีผลบังคับใช้ (เริ่มยื่นคำขอ) 9 กันยายน 2567
- เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (Positive Airway Pressure:PAP)
กรณีชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติบอดีหรือแอนติจน (Professional use) ให้ผู้ผลิต นำเข้า หรือผู้ขายจัดทำรายงานการขายตามแบบฟอร์ม ร.ข.พ.4 โดยยื่นเป็นเอกสารต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา